เมนู

เมื่อจะแสดงความพินาศแห่งวรรณะนั้นนั่นแหละ จึงตรัสพระคาถาในลำดับนั้น.
บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า อนาคตปฺปชปฺปาย แปลว่า เพราะปรารถนา
ปัจจัยที่ยังไม่มาถึง. บทว่า เอเตน ได้แก่ ด้วยเหตุทั้ง 2 นี้. บทว่า นโฬว
หริโต ลุโต
อธิบายว่า พวกพาลภิกษุจักซูบซีด เหมือนต้นอ้อสดที่บุคคล
ถอนทิ้งที่แผ่นหินอันร้อน จักเหี่ยวแห้ง ฉะนั้นแล.
จบอรรถกถาอรัญญสูตร ที่ 10
จบนฬวรรคที่ 1

รวมพระสูตรในนฬวรรคที่ 1


1. โอฆตรณสูตร 2. นิโมกขสูตร 3. อุปเนยยสูตร 4. อัจเจนติสูตร
5. กติฉินทิสูตร 6. ชาครสูตร 7. อัปปฏิวิทิตสูตร 8. สุสัมมัฏฐสูตร
9. มานกามสูตร 10. อรัญญสูตร พร้อมทั้งอรรถกถา

นันทหวรรคที่ 2



1. นันทนสูตร



ว่าด้วยคำของพระอรหันต์



[23] สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับอยู่ ณ พระวิหารเชตวัน
อารามของท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐี กรุงสาวัตถี ณ ที่นั้นแล พระผู้มีพระภาคเจ้า
ตรัสเรียกภิกษุทั้งหลายว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุเหล่านั้นทูลรับพระดำรัส
ของพระผู้มีพระภาคเจ้าแล้ว.
[24] พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสพระพุทธพจน์นี้ว่า ดูก่อนภิกษุทั้ง
หลาย เรื่องเคยมีมาแล้ว พวกเทวดาชั้นดาวดึงส์องค์หนึ่งแวดล้อมด้วยหมู่นาง
อัปสร อิ่มเอิบพรั่งพร้อมด้วยเบญจกามคุณอันเป็นทิพย์ พวกนางอัปสรบำเรอ
อยู่ในสวนนันทนวันได้กล่าวคาถานี้ในเวลานั้นว่า
เทวดาเหล่าใดไม่เห็นนันทนวัน อัน
เป็นที่อยู่ของหมู่นรเทพ สามสิบ ผู้มียศ
เทวดาเหล่านั้นย่อมไม่รู้จักความสุข.

[25] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เมื่อเทวดานั้นกล่าวอย่างนี้แล้ว เทวดาองค์
หนึ่งได้ย้อนกล่าวกะเทวดานั้นด้วยคาถาว่า
ดูก่อนท่านผู้เขลา ท่านย่อมไม่รู้จัก
คำของพระอรหันต์ทั้งหลายว่า สังขารทั้ง
ปวงไม่เที่ยง มีความเกิดขึ้นและเสื่อมไป
เป็นธรรมดา เกิดขึ้นแล้วก็ดับไป ความ
สงบระงับสังขารเหล่านั้นเสียได้เป็นสุข.